ทัวร์ยุโรปที่ยอดเขาจุงเฟรา

            เชื่อได้เลยว่าแฟนละครชาวไทยที่ได้ติดตามละครเรื่องสุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอนคุณชายปวรรุจแล้ว คงจะหลงเสน่ห์สถานที่แห่งหนึ่งในประเทศสวิตเวอร์แลนด์ที่เป็นโลเคชั่นสำคัญในการถ่ายทำละครเรื่องนี้ และยังเป็นฉากสำคัญที่ทำให้ความรักระหว่างคุณชายปวรรุจและหม่อมเจ้าหญิงวรรณรสางอกงามขึ้นเรื่อยๆ นั่นคือยอดเขาจุงเฟรา (Jungfrau) หากใครจะทัวร์ยุโรปแบบโรแมนติกๆ ที่นี่เป็นอีกสถานที่ในสวิตเวอร์แลนด์ที่ไม่ควรพลาด

          เพราะที่ยอดเขาจุงเฟรา หรือยอดเขาสาวน้อย เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของยุโรป ได้รับการยกย่องว่า เป็น Top of Europe เพราะมีความสูงถึง 4,158 เมตร และยังมีจุดชมวิวที่สูงที่สุดในยุโรปด้วยยอดเขาแห่งนี้ และขึ้นชื่อในเรื่องธรรมชาติที่งดงาม จุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจของที่นี่ที่แฟนละครคงได้เห็นด้วยด้วยตา คือ ลานสกีเบื้องล่างของยอดเขา ที่สามารถเห็นภูมิทัศน์ของเทือกเขาแอลป์ที่สวยงาม ซึ่งเห็นได้จากฉากที่ตัวละครเล่นสกี หัดสกีกันกันที่ น่าประทับใจ ส่วนอีกจุดหนึ่งคือธารน้ำแข็งที่อยู่ลึกจากพื้นผิว ถึง 30 เมตร ซึ่งได้รับการแกะสลักให้สวยงาม ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งตื่นตาตื่นใจกับความงามภายในถ้ำ และตื่นเต้นกับการผจญภัยลอดถ้ำน้ำแข็งแห่งนี้จนเป็นที่จดจำของตัวละครทุกตัวในเรื่อง

          แม้ทัวร์ยุโรปของบริษัทนำเที่ยวของไทยจะมีโปรแกรมการท่องเที่ยวในประเทศสวิตเวอร์แลนด์ แต่สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย ประเทศนี้ก็ยังไม่ใช่ประเทศยอดฮิตในการทัวร์ยุโรปสักเท่าไร ถ้าจะเที่ยวยุโรปคนไทยจะนึกถึงอังกฤษหรือฝรั่งเศสมากกว่า แต่ตอนนี้ความสวยงามแห่งยอดเขาจุงเฟราคงตราตรึงใจแฟนละครชาวไทยไปอีกนานแสนนาน และอยากจะลองตามหารักแท้สักครั้ง ณ ที่แห่งนี้

ทัวร์ฮ่องกง กับสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด

            ฮ่องกง เป็นเกาะที่มีความสวยงาม เต็มไปด้วยสถานบรรเทิง ที่เคารพศักการะบูชา และแหล่งช๊อปปิ้งมากมาย ซึ่งสถานที่ที่ไม่เพียงแค่นักท่องเที่ยวชาวไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นอีกหนึ่งโซนที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกให้การยอมรับว่าเป็นเป้าหมายหลักที่ทัวร์ฮ่องกงต้องการเดินทางเข้ามาเยี่ยมชมมากที่สุด ดังนี้

• แหล่งช๊อปปิ้งยามเย็นที่ เทมเปิล สตรีท ซึ่งมีผลิตภัณฑ์หลากหลายชนิดอาทิเช่น เสื้อผ้า นาฬิกา อุปกรณ์ไฟฟ้า กระเป๋า เหมาะกับคณะทัวร์ที่ต้องการเลือกซื้อกลับมาเป็นของฝากของคนทางบ้านเป็นอย่างยิ่ง
• วัดซิก ซิก หยวน หว่องไทซิน ถือว่าเป็นวัดที่รวบรวมนำเอา 3 ลัทธิเข้าด้วยกัน เช่น วัดซิก ซิก หยวน หว่องไทซิน เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปเคารพศักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิต
• เอาใจคนชอบความท้าทาย ความสนุกสนานไปกับ โอเชี่ยนปาร์คและฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ ที่มีเครื่องเล่นหลากหลายสไตล์ให้เลือกเล่น พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ
• ชม โกลเด้น โบฮิเนีย ที่เป็นเอกลักษณ์แห่งความยินดีที่ทางจีนได้มอบให้ฮ่องกงกับการรวมกันเป็นแผ่นดินเดียวกัน
• ชมสัญลักษณ์แห่งจิมซาโจ่ย ได้ที่หอนฬิกา
• ชมอนุสรณ์บุคคลจากวงการอุตสาหกรรมภาพยนตร์ที่ อเวนิว ออฟ สตาร์ มีทั้งชื่อลายพิมพ์มือดารา รูปปั้นจำลอง
• หากต้องการเปลี่ยนบรรยากาศท้องทะเลแบบไทยๆ ต้องที่ รีพัลส์ เบย์ ที่เดียวเท่านั้น ที่มีร้านอาหาร ครับ ที่พัก ให้ทัวร์ฮ่องกงได้ตากอากาศชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม
• ตลาดกลางแจ้งที่ เลดี้ส์ มาร์เก็ต ที่เปิดให้บริการตั้งแต่เที่ยงวันไปจนถึงห้าทุ่ม ซึงเต็มไปด้วยเสื้อผ้าแฟชั่น เครื่องประดับ และอื่นๆ อีกมากมาย
• และสุดท้ายอย่าลืมไปชมความงดงามที่จุดชมวิว วิคตอเรีย พีค ที่งดงามทั้งกลางวันและกลางคืน รับรองได้ว่าสามารถสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี

เที่ยวญี่ปุ่นช่วงฤดูร้อน ได้อะไรบ้าง

         ถึงแม้ว่าในฤดูร้อนของญี่ปุ่นจะมีอุณหภูมิสูงเทียบเท่ากับประเทศไทย ซึ่งดูแล้วไม่ต่างกับเราไปไปเที่ยวต่างจังหวัด แต่คุณหรือหรือไม่ว่ายังมีเทศกาลที่สำคัญต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ตื่นตาตื่นใจอีกมากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นคงหนีไม่พ้นเทศกาลดอกไม้ไฟ ที่นับได้ว่าญี่ปุ่นมีความเชี่ยวชาญในการจัดทำดอกไม้ไฟเป็นอันดับต้นๆ ของโลก และประเทศไทยเองเราได้ให้ความไว้วางใจจากชาวญี่ปุ่นในการจัดทำดอกไม้ไฟในวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ซึ่งเทศกาลดอกไม้ไฟที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆของการท่องเที่ยวญี่ปุ่นได้แก่ Toyako Onsen Longrun Hanabi Taikai (เป็นเทศกาลดอกไม้ไฟที่มีการจัดเทศกาลที่ยาวนานที่สุด จัดขึ้นที่เมือง Hokkaido ), Katakai Matsuri(เทศกาลดอกไม้ไฟที่มีขนาดใหญ่ที่สุด จัดขึ้นที่ Niigata) และKyososai PL Hanabi Taika(เทศกาลดอกไม้ไฟที่ใช้งบประมาณมากที่สุด จัดขึ้นที่ Osaka) และยังมีเทศกาลอื่นๆอีกมากมาย อาทิเช่น

• เทศกาลทานาบะตะ ซึ่งจัดทุกวันที่ 7  กรกฏาคของทุกปี ทั่วประเทศญี่ปุ่นจะมีการประดับโคมกระดาษหลากสีสวยงาม แต่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือ เมืองเซนได
• เทศกาลบน จัดขึ้นทุกวันที่ 13ถึง15 กรกฎาคมของทุกปี ในบางพื้นที่อาจจัดในช่วงเดือนสิงหาคม เพื่อระลึกถึงดวงวิญญาณที่ได้ร่วงลับไปแล้ว
• เทศกาลฮะคะตะ กิออน ยะมะงะซะ จัดขึ้นทุกวันที่ 1-15 กรกฎาคม ของทุกปี ที่เมืองฟุคุโอกะ มีการแห่ขบวนรถประดับสวยงามและยิ่งใหญ่
• เทศกาลคันโต ทุกวันที่ 3ถึง6 สิงหาคมของทุกปี ที่เมืองอะคิตะ มีขบวนแห่แผงโคมไฟที่แขวนบนราวไม้ไผ่

       ซึ่งเมื่อได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วอย่าลืมซื้อของฝากติดไม้ติดมือมา ได้แก่ Tako Yaki , Haginotsuki, Marusei Butter Sando, Momiji Manju, Shiroikoibito, Uirou, Jagapokkuru, Akafuku, Gougouichi no Butaman และ Karashi Mentaiko

การเตรียมตัวไปทัวร์เกาหลีในฤดูหนาว

        การเดินทางทัวร์เกาหลีในฤดูหนาวนั้น สิ่งสำคัญที่สุดที่ไม่ควรมองข้ามไป คือเรื่องของการแต่งกาย เพราะในหน้าหนาวของเกาหลีนั้นมีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงถึง -5 ถึง -20 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว หากคิดจะใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้น เพื่อที่จะถ่ายรูปสวยๆ แล้วหล่ะก็ เห็นทีจะเป็นความคิดที่ผิดนัก หากไปทัวร์เกาหลีในช่วงปีใหม่หรือในฤดูหนาวนั้นก็ควรเตรียมเครื่องแต่ง

• ชุดลองจอห์น สำหรับใส่ชั้นในสุด เนื่องจากเนื้อผ้าสามารถเก็บความอบอุ่นได้เป็นอย่างดี ถึงแม้จะดูเหมือนว่าเนื้อผ้าบางๆ ก็ตาม  
• เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว สำหรับสวมเป็นชั้นที่สองต่อจากลองจอห์น 
• เสื้อกันหนาว เสื้อคลุม สำหรับชั้นนอกสุด ควรเลือกเสื้อที่ด้านในเป็นขน เพราะว่าจะเก็บความอบอุ่นได้ดี มีความหนา ป้องกันลมและความเย็นจากอากาศภายนอกได้ เสื้อกันหนาวสำหรับไปทัวร์เกาหลี ควรจะพกไว้สองแบบ คือสำหรับเล่นหิมะ และสำหรับใส่เดินเล่นในเมือง
• ถุงมือ หมวก ผ้าพันคอ รองเท้า และอื่นๆ ที่จะช่วยป้องกันความหนาวได้ ไม่ควรเลือกประเภทที่ให้ความสวยงามอย่างเดียว ควรจะเน้นป้องกันความหนาวไว้ก่อน

การทัวร์เกาหลีนอกจากเครื่องแต่งกายแล้ว สิ่งที่ควรจะเตรียมไปด้วยคือ โลชั่น ครีมทาผิว ลิปสติก เพื่อป้องกันผิวแห้งและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวอยู่เสมอ

ทัวร์ภูฏานไม่ควรพลาด “ทังกา” ของฝากชื่อดัง

       หนึ่งในกิจกรรมสำคัญที่เหมือนเป็นประเพณีที่ต้องทำ สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปต่างประเทศนั้น คงหนีไม่พ้นการซื้อของฝาก ซึ่งในแต่ละประเทศของฝากก็จะแตกต่างกันออกไปด้วยตามลักษณะต่างๆ เช่น วัฒนธรรม วิถีชีวิตความเป็นอยู่ สภาพภูมิประเทศ เป็นต้น เช่นเดียวกับการไปทัวร์ภูฏาน ที่ถือเป็นประเทศที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ซึ่งภูฏานก็มีของฝากที่น่าสนใจ ที่นักท่องเที่ยวเห็นเป็นต้องซื้อติดไม้ติดมือกันทุกที
สินค้าของที่ระลึกภูฏานและของฝากจากภูฏานนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นงานหัตถกรรมพื้นบ้านฝีมือประณีต เช่น ผ้าทอฝ้ายและผ้าขนสัตว์ เครื่องจักรสาน และเครื่องประดับที่ทำด้วยเงิน ซึ่งถือเป็นงานศิลปะที่มีค่าและมีความหมายมากสำหรับชาวภูฏาน
เมื่อไปทัวร์ภูฏาน ของที่ระลึกที่ไม่ควรพลาดซื้อ คือ “ทังกา” หรือพระบฎในชื่อของไทย คือ ผ้าใบผืนขนาดต่างๆ ที่เขียนสี ทอหรือปักเป็นเรื่องราวในพุทธประวัติ หรือคำสอนในพุทธศาสนา ลักษณะเหมือนผ้ายันต์ มีที่แขวนทำด้วยไม้ไผ่ ซึ่งชาวภูฏานถือเป็นผ้าศักดิ์สิทธิ์และเป็นของสำคัญในการประกอบพิธีทางศาสนาของชาวภูฏาน
ทังกามีหลายขนาดและราคา ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ ลวดลาย และฝีมือการประดิษฐ์ ทังกาที่จะซื้อออกนอกภูฏานได้นั้นต้องเป็นของทำเทียมหรือทำขึ้นใหม่เท่านั้น ส่วนใหญ่เป็นงานของนักเรียนนักศึกษาที่หารายได้เป็นทุนการศึกษา ถือเป็นงานฝีมือที่งดงามไม่แพ้ของจริง และมีความหลากหลายมากขึ้น เช่น ภาพสัตว์ต่างๆ เป็นต้น
หากใครไปทัวร์ภูฏาน อย่าลืมซื้อทังกาไปฝากคนรู้จักด้วยนะครับ ได้ทั้งความสวยงามและคุณค่าทางใจไปพร้อมๆ กัน

พัทยาโรงแรม ช๊อป ชม ชิม ของดีทั่วไทย ที่ตลาดน้ำ 4 ภาค

ตลาดน้ำสี่ภาคได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลักของพัทยาสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการช๊อปปิ้งในรูปแบบของตลาดน้ำพร้อมพัทยาโรงแรม ภายในนอกจากจะพบการค้าขายจากพ่อค้าแม่ค้าบนเรือแล้ว ยังมีการแสดงเกี่ยวกับวัฒนธรรมของแต่ละภาคในประเทศไทยอีกด้วย หากเราอยากจะนั่งเรือชมรอบๆ ตลาดน้ำสี่ภาคก็สามารถทำได้เช่นกัน จึงทำให้ในแต่ละวันมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนกันมาอย่างไม่ขาดสาย

                ตลาดน้ำสี่ภาคนั้นถูกสร้างขึ้นมาภายใต้วัตถุประสงค์ของการนำเสนอขนบธรรม เนียนประเพนีของแต่ละภาคในประเทศไทย ทั้งเหนือ ใต้ กลาง และตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งจุดมุ่งหมายนี้รวมไปถึงวิธีการใช้ชีวิตของผู้คน กิจกรรมต่าง ๆ และสินค้าหลัก ๆ ของแต่ละภาคด้วย เพราะฉะนั้นตลาดน้ำพัทยาจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มาก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ
                ภายในตลาดน้ำพัทยานี้ ไม่ได้มีแค่การนำเสนอการแสดงของภาคต่างๆ เท่านั้น แต่ยังคงมีสินค้าหลากหลาย สินค้าแปลก ๆ และสินค้าเฉพาะ จากแต่ละภาคให้เลือกด้วย นักท่องเที่ยวเวลามาเที่ยวแล้วมักจะซื้อของติดไม้ติดมือกลับไปเป็นของฝาก ด้วยเช่นกัน
                จะเห็นได้ว่าที่พัทยา โรงแรมและร้านอาหารนอกจากจะสร้างรายได้มากมายแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ยังเป็นตัวดึงดูดให้นักท่องเที่ยว หลั่งไหลเข้ามากันอย่างต่อเนื่องอีกด้วย อีกทั้งพัทยา โรงแรมยังเป็นที่พักที่สร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวหลายต่อหลายคนเดินทางกลับมาเยือนพัทยาหลายครั้งด้วยกัน

ทัวร์ต่างประเทศ | เที่ยวดูไบ มิราเคิล สวนดอกไม้ใหญ่ที่สุดในโลก

           หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีความต้องการไปทัวร์ต่างประเทศ ขอแนะนำประเทศที่น่าสัมผัสในความสวยงามและความเจริญมากอย่าง ประเทศอาหรับเอทิเรตส์ เมือง ดูไบ ที่มีความรุ่งเรืองมาด้านการลงทุนและเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญมาแห่งหนึ่งของโลก และมีสิ่งที่ทำให้หลายๆ คนไฝ่ฝันอย่างเดินทางไปดูไลสักครั้งหากมีโอกาสได้ไปทัวร์ต่างประเทศถ้าจะให้พูดถึงดูไบแล้ว แน่นอนว่าทุกคนจะต้องรู้จัก ตึกเบิร์จ คาลิฟาที่สูงที่สุดในโลก และในเร็วๆ นี้ดูไบก็กำลังจะมีสวนดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย

           หากพูดเรื่องความเป็นที่สุดของหลายๆ ความมหัสจรรย์ทั่วโลกนั้น ดูไบ เป็นหนึ่งในประเทศที่มีความเป็นที่สุดอยู่หลายอย่าง “ ดูไบ มิราเคิล การ์เด้น ” สวนดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก็เป็นอีกอย่างที่เป็นที่สุดของ ดูไบ เช่นกัน ซึ่งมันคือโปรเจ็คยิ่งใหญ่ที่ให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวชมหรือนักเดินทางที่มาทัวร์ต่างประเทศให้ชมความอลังการของสวนดอกไม้แห่งนี้ สวนดอกไม้สร้างในเขต ดูไบแลนด์ กินพื้นที่ประมาณ 72,000 ตารางกิโลเมตร ภายในสวนประกอบด้วย ไม้นานาพันธุ์กว่า 45 ล้านต้น และได้มีการนำน้ำทิ้งที่คนในเมืองดูไบที่ใช้แล้ว มาทำการบำบัดใหสะอาดเพื่อสำหรับรดน้ำต้นไม้เหล่านั้น ซึ่งเป็นการประหยัดทรัพยาการธรรมชาติอีกด้วย

          สำหรับนักท่องเที่ยวหรือนักทัวร์ต่างประเทศอย่างเราๆ นั้นก็ไปเที่ยวชมสวนดอกไม้ ดูไบ มิราเคิล ตั้งแต่เดือน ตุลาคม – พฤษภาคม ของทุกปี เปิดบริการทุกวัน เวลา 9.00-21.00 ค่าบริการ 5.50 เหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 165 บาท (1 ดอลล่า = 30 บาท) แต่เด็กอายุต่ำกว่า 3 ขวบ เข้าฟรี